clock 04 มี.ค. 2562 view 4607 ครั้ง
ประวัติความเป็นมาของบ้านผาฮี้ ราวปี พ.ศ. ๒๔๖๕ แต่เดิมบ้านอาข่าผาฮี้ ได้อพยพมาจากแคว้นสิบสองปันนา ในประเทศจีน มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในประเทศพม่ารัฐฉานประมาณ ๒๐ ปี ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านป่าก่ออยู่ตรงข้ามบ้านผ้าขาวประเทศพม่ามีอาชีพทำไร่เลื่อนลอย ต่อมาไม่นานก็ได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ชาวบ้านจึงได้อพยพจากบ้านป่าก่อ ปี พ.ศ. ๒๔๘๕ ย้ายถิ่นฐานมาอยู่บ้านห้วยน้ำริน บริเวณสร้างเจดีย์พระนเรศวรปัจจุบัน ซึ่งมีชาวบ้านมาอาศัยอยู่ประมาณ ๑๑ ครอบครัว ชาวบ้านยังยึดอาชีพ ทำไร่เลื่อนลอย และเลี้ยงสัตว์ จนประมาณ ๗ ปี พื้นที่ทำกินลดน้อยลง สภาพพื้นที่ก็ไม่สมบูรณ์ ลำบากในการทำมาหากินจึงมีความคิดที่จะหาถิ่นที่อยู่ใหม่ ปี พ.ศ. ๒๕๐๔ โดยมี นาย อาเพียว พรจรัสโชติ ( เชอมือ ) และนางอาบะพรจรัสโชติ(เชอมือ)สองสามีภรรยาจึงได้พาครอบครัวและพี่น้องประมาณ ๗ ครอบครัวมาก่อตั้งหมู่บ้านใหม่บ้านจะโคอาข่า คือมาตั้งถิ่นฐานครั้งแรกของหมู่บ้านผาฮี้ การทำมาหากินทำสวนทำไร่ ปลูกฝิ่น ทำการค้าขายไม่ค่อยดี ผู้นำหมู่บ้านกับราษฎรในหมู่บ้านได้ปรึกษาหารือกันว่าขยับตั้งถิ่นฐานเพื่อจะได้เป็นสิริมงคลกับหมู่บ้านจากนั้นได้ขึ้นมาตั้งถิ่นฐานอยู่ ณ ที่ตั้งหมู่บ้านผาฮี้ปัจจุบัน เพราะเหมาะสำหรับปลูกข้าวปลูกฝิ่น ต่อมาปี พ.ศ. ๒๕๐๙ ได้มีชาวบ้าน จำนวน ๑๐ หลังคาเรือนมาอาศัยอยู่ด้วยซึ่งเป็นญาติพี่น้อง ต่อมาปีพ.ศ. ๒๕๑๑ มีชาวบ้านจากบ้านแม่หม้อและบ้านพญาไพรย้ายเข้ามา ประมาณ ๒๖ หลังคาเรือน ต่อมาอีก ๒ ปี มีประชากรย้ายมาจากบ้านแม่หม้ออีก ประมาณ ๒๐ หลังคาเรือน ชาวบ้านประกอบอาชีพปลูกฝิ่น ทำไร่ข้าวโพด ข้าว ถั่วเหลือง เมื่อประชากรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทำให้มีพื้นที่ทำกินไม่เพียงพอต่อความต้องการของชุมชนชาวบ้านส่วนหนึ่งจึงได้ย้ายออกไปอยู่ที่อื่น เช่นอำเภอเชียงแสนประมาณ๒๐ หลังคาเรือน อำเภอแม่สรวย ๕ หลังคาเรือน และจังหวัดตากประมาณ ๑๕ หลังคาเรือน ผู้นำหมู่บ้านผาฮี้คือ นายอาเพียว พรจรัสโชติ ( เชอมือ ) ซึ่งได้เสียชีวิตแล้ว ผู้นำหมู่บ้านคนปัจจุบันคือ นายสรพงษ์ พรจรัสโชติ(เชอมือ) ซึ่งเป็นบุตรชายคนสุดท้องของนายอาเพียวและนางอาบะรับสืบทอดเป็นผู้นำต่อจากบิดา ที่มาของบ้านผาฮี้ เมื่อย้ายเข้ามาอยู่แรกๆชาวบ้านจะเรียกบ้านผาฮี้ปัจจุบันว่า บ้านจะโคอาข่า หมายถึงดอยช้างมูบ ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่เคารพบูชา ของชาวบ้าน ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อหมู่บ้านผาฮี้ เนื่องจากมีชาวพื้นที่ราบขึ้นมาเที่ยว และพบว่ามีต้นไม้ชนิดหนึ่งที่รับประทานได้มีจำนวนมาก คือ ไม้เสี้ยวป่า(ภาษาพื้นเมือง เรียกว่า ต้นผักฮี้) ประกอบกับมีหน้าผามาก ชาวพื้นราบในบริเวณนั้น จึงเรียกหมู่บ้านนี้ว่า บ้านผาฮี้ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน สภาพแวดล้อมบ้านผาฮี้มีความเป็นอยู่ที่ดีกว่าอดีต เพราะอดีตหมู่บ้านแห่งนี้ เคยเป็นหมู่บ้านที่มีการลำเลียงหัวเชื้อเพื่อผลิตยาเสพติด และปลูกฝิ่นเป็นอาชีพหลักในการดำรงชีพ ปัจจุบันปลูกกาแฟ อาราบีก้า เป็นอาชีพหลัก มีรายได้เข้ามาในหมู่บ้านผาฮี้ ในแต่ละปีมีรายได้จากการขายกาแฟ ไม่ต่ำกว่า ๓ ล้านบาท แต่เดิมบ้านผาฮี้ เป็นหมู่บ้านบริวารของบ้านดงม่วงคำ ตำบลโป่งผา พ.ศ. ๒๕๒๗ ได้ตั้งชื่อหมู่บ้านเป็นหมู่บ้านที่ถูกต้องตามกฎหมาย ชื่อหมู่บ้านผาฮี้ หมู่ที่ ๑๗ ตำบลโป่งผา ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๓ ทางอำเภอแม่สายได้ตั้งตำบลใหม่ คือตำบลโป่งงาม หมู่บ้านผาฮี้ก็เลยอยู่ในเขตของตำบลโป่งงามที่อำเภอประกาศตั้งแต่นั้นมา พ.ศ. ๒๕๒๗ ได้จัดตั้งเป็นหมู่บ้าน ปชด. ชาวบ้านได้เลือก นายวิชัย พรถาวรทรัพย์ (นายสะเคอะ เชอมือกู่) ได้เป็นผู้ประสานงานระหว่างหมู่บ้านกับหน่วยงานทางราชการ พ.ศ. ๒๕๒๘ ได้เกิดเหตุไฟไหม้ บ้านเรือนของราษฎรบ้านผาฮี้รวมทั้งหมด ๒๔ หลังคาเรือน ทั้งนี้ได้รับความช่วยเหลือจากศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาและหน่วยงานราชการต่างๆในการก่อสร้างบ้านเรือนและเครื่องนุ่งห่ม ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๑ ทางราชการ ได้จัดตั้งหมู่บ้าน ถาวรอย่างเป็นทางการ เป็นหมู่บ้านผาฮี้ หมู่ที่ ๑๐ ต. โป่งงาม อ. แม่สาย จ. เชียงราย และพ.ศ. ๒๕๓๑บ้านอาข่าผาฮี้ได้เข้าอยู่ในเขตพื้นที่ โครงการพัฒนาดอยตุง และเขตปกครองอำเภอแม่สาย ต. โป่งงาม
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น